HONEYCERAM ซึ่งเป็นซับสเตรทเร่งปฏิกิริยารูปรวงผึ้ง ผลิตภัณฑ์นี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะเทคโนโลยีที่สั่งสมมาจากธุรกิจฉนวนไฟฟ้า, จากการยืนกรานที่จะทำธุรกิจซับสเตรทรูปรวงผึ้ง ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม และจากความพยายามอย่างไม่ลดละในห้องปฏิบัติการและสถานที่ผลิตเพื่อให้แน่ใจในคุณภาพ
ไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อจากผู้ผลิตญี่ปุ่น
ตัวแทนขายซึ่งไปหา Ford ตั้งแต่ราว ๆ ค.ศ.1973 ได้ทบทวนถึงเรื่องการพัฒนา HONEYCERAM ว่า "พวกเขาตกลงให้เราเข้าพบและฟังสิ่งที่เราพูด แต่ท่าทีของพวกเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการปล่อยก๊าซจากผู้ผลิตต่างประเทศ" ตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เอ็นจีเค ได้ทำการวิจัยเซรามิครูปรวงผึ้ง (HONEYCERAM) เพื่อใช้เป็นซับสเตรทเร่งปฏิกิริยาเพื่อกรองไอเสียรถยนต์ และบริษัทได้เริ่มส่งชิ้นส่วนตัวอย่างออกไปในปี ค.ศ.1974 แต่ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนั้นใช้ซับสเตรทเร่งปฏิกิริยาเพื่อกรองไอเสียรถยนต์รูปเม็ดกลม และผู้ผลิตญี่ปุ่นก็ทำแบบเดียวกัน เพื่อที่จะผ่าทางตันนี้ไปให้ได้ เอ็นจีเค ได้ส่งชิ้นส่วนตัวอย่างไปให้ผู้ผลิตรถยนต์อื่นซึ่งพิจารณาจะใช้ซับสเตรทรูปรวงผึ้ง และตัวแทนขายได้เข้าไปหาที่บริษัทหลายครั้ง เหตุผลที่พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อของจากผู้ผลิตต่างประเทศคือพวกเขามีผู้ผลิตชิ้นส่วนซับสเตรทรูปรวงผึ้งที่เป็นตัวเลือกอยู่หลายแห่งแล้ว
หลังจากนั้น ในเดือนมกราคม ค.ศ.1975 เอ็นจีเค ได้รับการสอบถามเกี่ยวกับราคาและระยะเวลาการส่งมอบสำหรับชิ้นส่วน 1,000,000 ชิ้น นอกเหนือจากตัวเลือกอันดับ 1 ของผู้ที่สอบถามมาแล้ว ก็ไม่มีชิ้นส่วนตัวอย่างของบริษัทใดผ่านมาตรฐานเลย
เอ็นจีเค จึงรีบส่งชิ้นส่วนตัวอย่างสำหรับการประเมินไปให้ Ford ที่ดีทรอยต์ทางไปรษณีย์ทางอากาศ
ผลการทดสอบที่ส่งมากจากดีทรอยต์
แต่ผลการทดสอบของ Ford ที่ส่งมาในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ.1975 เป็นเรื่องเลวร้ายมาก ชิ้นส่วน 4 ชิ้นจาก 6 ชิ้นแตกระหว่างการทดสอบความเสียหายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหัน ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายความว่าเราไม่สามารถเจรจาต่อรองอะไรได้อีกแล้ว
ในห้องปฏิบัติการ เราเริ่มพยายามปรับปรุงเรื่องความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหัน เราได้หารือกันอย่างต่อเนื่อง, บดวัตถุดิบให้เป็นผง, ขึ้นรูปในเครื่องนวด, ทำให้แห้งและเผา และประเมินชิ้นส่วนตัวอย่าง เราทำงานแม้ในวันหยุดปีใหม่ ในวันที่ 12 มกราคม ของปีถัดมา วัสดุตั้งต้นตัวใหม่เสร็จสมบูรณ์ และชิ้นส่วนตัวอย่างได้ถูกส่งไปให้ Ford ทันที
Ford มาญี่ปุ่นเพื่อตรวจสอบเทคโนโลยีการผลิตของเราในเดือนมีนาคม ขณะที่เรากำลังรอผลการทดสอบ เพื่อที่จะให้ Ford ประทับใจระดับความสามารถการผลิตของ เอ็นจีเค เราได้ให้พวกเขาดูอุโมงค์เตาเผาซึ่งมีความยาวทั้งสิ้น 130 เมตร เราอธิบายความสามารถในการเผาและการผลิตเซรามิคที่มีคุณสมบัติเหมือนกันได้ในปริมาณมากด้วยความกระตือรือร้น
ในวันที่ 9 เมษายน ผู้แทนขายซึ่งได้รับผลการทดสอบจาก Ford ได้ส่งโทรเลข 1 บรรทัดจากสำนักงานในนิวยอร์กไปถึงญี่ปุ่น "ผลการทดสอบยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบ" ข้อความเพียงบรรทัดเดียวเท่านั้น แต่ ณ ตอนนั้น มันคือรางวัลสำหรับการทำงานอย่างหนักระหว่างวันหยุดทั้งหมด
จากผลการทดสอบเหล่านี้และจากการเยี่ยมชมโรงงานในญี่ปุ่น Ford ได้ตัดสินใจสั่งผลิตภัณฑ์จาก เอ็นจีเค
ความเชื่อมั่นในความสามารถในการทำกำไร จากการผลิตปริมาณมาก
ธุรกิจเริ่มต้นขึ้นจากโปรเจกต์ซึ่งเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ค.ศ.1976
ฝ่ายฉนวนไฟฟ้ารับผิดชอบการผลิต และเราได้เริ่มระบบซึ่งสามารถผลิตรายเดือนได้ 30,000 ชิ้น แต่ก็มีปัญหา สมาชิกของโปรเจกต์กล่าวว่า"เราไม่สามารถประมาณการอุปสงค์ได้หลายปีล่วงหน้า เหมือนกับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ในอุตสาหกรรมรถยนต์ เราสามารถประเมินอุปสงค์ได้แค่ทีละเดือนเท่านั้น เราต้องเปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนกรอบความคิดของเรา"
ต่อไปจะมีการต่อรองราคา ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะเริ่มการผลิต Mass Production เราได้ตัดสินใจแล้วว่าจะยอมผลิตขาดทุนในตอนแรก แล้วสร้างธุรกิจให้สามารถสร้างผลกำไรได้จากคำสั่งซื้อและการผลิต Mass Production นี่เป็นการตัดสินใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ทำให้เราสามารถเจรจาตกลงกันได้ แล้วเร่งทำการผลิต Mass Production
ในเดือนเมษายน ค.ศ.1976 เราได้เริ่มก่อสร้างโรงงานสำหรับ HONEYCERAM โดยเฉพาะภายในบริเวณโรงงานหลักของเรา และเราได้เริ่มส่งของในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน
ผลิตภัณฑ์ HONEYCERAM ในตอนแรก
การทดสอบความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหันของ HONEYCERAM
ปัจจัยที่นำพาให้ ธุรกิจ HONEYCERAM ประสบความสำเร็จ
หลังจากที่ปริมาณการผลิตต่อเดือนถึง 120,000 ชิ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ.1977 ด้วยความพยายามของห้องปฏิบัติการ เราประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อยในการทำตามการร้องขอที่ขอให้ทำผนัง HONEYCERAM ให้บางลง ทำให้เรามองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนับแต่นั้นมา นอกจากในญี่ปุ่นแล้ว ยังได้ขยายโรงงานผลิตออกไปยังยุโรป, สหรัฐมอเมริกา, อินโดนีเซีย, แอฟริกาใต้, จีน, โปแลนด์, เม็กซิโก และประเทศไทย และ HONEYCERAM ได้เติบโตมาเป็นธุรกิจหลักของ เอ็นจีเค
ธุรกิจเซรามิครูปรวงผึ้งเริ่มต้นในทศวรรษ 1970 และเบ่งบานมากในทศวรรษ 1980 โดยมีรากฐานมาจากฝ่ายฉนวนไฟฟ้า คนที่มีส่วนร่วมในการเริ่มทำธุรกิจ HONEYCERAM มีความเห็นตรงกันว่าธุรกิจเซรามิครูปรวงผึ้ง ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ นั่นคือการนำสิ่งที่สืบทอดกันมาของฝ่ายฉนวนไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์, การยืนกรานว่าถึงอย่างไรก็จะทำธุรกิจซับสเตรทรูปรวงผึ้ง, ความพยายามอย่างไม่ลดละในห้องปฏิบัติการและสถานที่ผลิตเพื่อให้แน่ใจในคุณภาพ และความเชื่อมั่นในความสามารถในการทำกำไรจากการผลิตปริมาณมาก
HONEYCERAM แบบผนังบาง
ผลิตภัณฑ์ HONEYCERAM
HONEYCERAM ชิ้นที่ 1 เพื่อระลึกถึงการผลิต และใบรับรองการจดทะเบียนว่าเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เครือข่ายการผลิต HONEYCERAM ทั่วโลก
NGK CERAMICS EUROPE S.A.
NGK CERAMICS POLSKA SP. Z O.O.
NGK CERAMICS SOUTH AFRICA (PTY) LTD.
NGK CERAMICS SUZHOU
โรงงานอิชิคะวะ
NGK CERAMICS (ประเทศไทย) CO., LTD.
แผนกการผลิตเซรามิกรถยนต์
P.T. NGK CERAMICS INDONESIA
NGK CERAMICS USA, INC.
NGK CERAMICS MEXICO, S. DE R. L. DE C. V.